โตโยต้าแถลงยอดขายปี 2560 พร้อมตั้งเป้า 300,000 คันในปี 2561 เชื่อมั่นศักยภาพของเศรษฐกิจ ไทย
  • 17 Jan 2018
  • News

โตโยต้าแถลงยอดขายปี 2560 พร้อมตั้งเป้า 300,000 คันในปี 2561 เชื่อมั่นศักยภาพของเศรษฐกิจ ไทย

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จํากัด แถลงสถิติการจําหน่ายรถยนต์ปี 2560 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2561 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ 

มร.ซึงาตะ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 870,748 คัน * มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13.3% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ผลักดันให้ GDP ของประเทศไทยเติบโต 3.9% ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไทยเติบโตครั้งแรกในรอบ 4 ปี”

สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2560* 

ยอดขายปี 2560

 เปลี่ยนแปลง

  เทียบกับปี 2559

ปริมาณการขายรวม

870,748 คัน

+13.3% 

รถยนต์นั่

345,501 คัน

+23.5%

รถเพื่อการพาณิชย์

525,247 คัน

+7.4%

รถกระบะ1ตัน

(รวมรถกระบะดัดแปลง)

424,282 คัน

+7.7%

รถกระบะ1ตัน                       (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง

364,706 คัน

+9.4%

โดยโตโยต้ามียอดขาย 240,137 คัน ลดลง 2.0% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 96,606 คัน เพิ่มขึ้น 10.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 143,531 คัน ลดลง 9.1% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหน่ึง ของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์133,458คันลดลง10.1%

*หมายเหตุ : ตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561 

สถิติการขายรถยนต์โตโยต้าในปี 2560* 

 

 

 

ปริมาณการขายโตโยต้า

240,137 คัน

ลดลง 2.0% 

ส่วนแบ่งตลาด 27.6%

รถยนต์นั่

96,606 คัน

เพิ่มขึ้น 10.7% 

ส่วนแบ่งตลาด 28.0%

รถเพื่อการพาณิชย์

143,531 คัน

ลดลง 9.1% 

ส่วนแบ่งตลาด 27.3%

รถกระบะ1ตัน

(รวมรถกระบะดัดแปลง)

133,458 คัน

ลดลง 10.1% 

ส่วนแบ่งตลาด 31.5%

รถกระบะ1ตัน                                (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง

109,988 คัน

ลดลง 8.7% 

ส่วนแบ่งตลาด 30.2%

ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมาโตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สําเร็จรูปจํานวน299,385คนั ลดลง6%คิดเป็นมูลค่า 159,321 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 65,387 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 224,708 ล้านบาท

สําหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2561 มร.ซึงาตะ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2561 มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ GDP ที่ 3.9%* รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีส่วนในการกระตุ้นตลาดให้เติบโต และการแนะนําผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลาย ค่ายรถยนต์ต่างๆดังนั้นเราคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศปีพ.ศ.2561จะอยู่ในระดับ900,000คันเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.4% 

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2561 

 

 

ปริมาณการขายรวม

900,000 คัน

+3.4% 

รถยนต์นั่

352,000 คัน

+1.9%

รถเพื่อการพาณิชย์

548,000 คัน

+4.3%

รถกระบะ1ตัน

(รวมรถกระบะดัดแปลง)

424,000 คัน

-0.1%

รถกระบะ1ตัน                         (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง

364,000 คัน

-0.2%

โดยโตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายสําหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 300,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 113,000 คัน เพิ่มข้ึน 17.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 187,000 คัน เพิ่มข้ึน 30.3% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 157,000 คันเพิ่มขึ้น 17.6% 

ปริมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2561

 

 

 

ปริมาณการขายโตโยต้า

300,000 คัน

เพื่มขึ้น 24.9% 

ส่วนแบ่งตลาด 33.3%

รถยนต์นั่

113,000 คัน

เพื่มขึ้น 17.0% 

ส่วนแบ่งตลาด 32.1%

รถเพื่อการพาณิชย์

187,000 คัน

เพื่มขึ้น 30.3% 

ส่วนแบ่งตลาด 34.1%

รถกระบะ1ตัน

(รวมรถกระบะดัดแปลง)

157,000 คัน

เพื่มขึ้น 17.6% 

ส่วนแบ่งตลาด 37.0%

รถกระบะ1ตัน                         (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง

133,000 คัน

เพื่มขึ้น 20.9% 

ส่วนแบ่งตลาด 36.5%

*หมายเหตุ: ตัวเลขการเติบโตของ GDP เป็นตัวเลขประมาณการ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2560

สําหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สําเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถรักษายอดส่งออกไว้ ที่ระด้บ 300,000 คันเนื่องมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญ

มร.ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า โตโยต้าขอแสดงความขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนอตุสาหกรรมยานยนต์ ของไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฮบริด หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (BOI)และลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ร่วมกับกรมสรรพสามิต โตโยต้าตัดสินใจขยายการลงทุนด้วยการลงทุนสายการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ ที่โรงงานโตโยต้าเกตเวย์ และเราจะยังคงพัฒนายนตรกรรมให้ ดียิ่งขึ้น เพื่อนําเสนอตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค

อีกทั้งเรายังพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโตโยต้า(New Era of Toyota) ด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะเป็น มาตรฐานของยานยนต์ในอนาคต ประกอบด้วย ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ระบบความปลอดภัยใหม่ที่มีมาตรฐานระดับโลก และระบบนําทางและเชื่อมต่อ ผู้ขับขี่กับรถยนต์ (Toyota T-connect Telematics) ซึ่งทั้งหมดนี้เราเริ่มนําเสนอเป็นครั้งแรกใน รถซับคอมแพคเอสยูวี รุ่นใหม่ TOYOTA C-HR

นอกจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับสังคมไทย ผ่านการสร้างประสบการณ์ใหม่ภายใต้ แนวคิด “LIVE ALIVE” และการทํากิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ โครงการ CU Toyota Ha:mo โครงการโตโยต้าถนนสีขาว เพื่อรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนซึ่งจะครบรอบ 30 ปี ในปี นี้ โครงการเมืองสีเขียวเพื่อการรณรงค์ทางด้าน สิ่งแวด ล้อมและโครงการโ ตโ ยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ที่นำองค์ความรู้และนวัตกรรมทางความคิดของโตโยต้าไปพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจชุมชน ซึ่งจะขยายไปยังทั่วประเทศในปี 2565”

มร.ซึงาตะ กล่าวยํ้า ถึงความเช่ือมั่นในประเทศไทยว่า ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล เรายังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนช่วยส่งเสริมและตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งโตโยต้ามุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถของวิศกรไทยในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านพันธกิจของบริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จํากัด(TDEM) เพื่อให้ ประเทศไทยเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน และนี่คืออีกหนึ่งความสุขที่เราพร้อมขับเคลื่อนและยืนเคียงข้างกับคนไทย อย่างยั่งยืนตลอดไป”